9/22/2559

แบกเป้ไป...ปีนัง...มะละกา...บ้าบ๋าและย่าหยา

มะละกา..ไม่ได้มีแค่บ้าบ๋า
        เพราะเมืองเล็กๆแห่งนี้ ยังมีสถานที่สำคัญทั้งทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม วิถีชีวิต แบ่งเป็นย่านต่าง ๆ เช่น เนินเขาซำปอกง , จตุรัสดัตช์สแควร์ , เนินเขาเซนต์ปอล และถนนสายวัฒนธรรม ชิโน - โปรตุกีส เป็นต้น         ซึ่ง"จุดแรก"และเป็น"จุดนัดหมาย"ของทุกคนที่มาที่นี่ย่อมเป็น"จตุรัสดัทช์สแควร์"        "จุดเด่น"ของมุมนี้ย่อมเป็นอาคารสีส้มและหอนาฬิกาที่ทุกคนต่างเคยเห็นภาพของ คนเคยมาเยืนอที่นี่จะต้องถ่ายภาพไว้ และด้านข้างของหอนาฬิกาก็เป็นอาคารร้านค้าของที่ระลึก ซึ่งหลายคนที่มาก็อดจ่าายเงินซื้อของที่ระลึกติดมือไปไม่ได้ และจากจุดนั้นก็เดินขึ้นเนินเขาไปพอประมาณก็เป็นเนินเขาซำปอกงและขึ้นไปอีก นิดก็เป็นวิหารเซนต์ปอล
        ผมตัดสินใจไม่แวะเนินเขาซำปอกง เพราะเวลาน้อยไม่คุ้มกับค่าเข้าชม ผมจึงเลือกเดินขึ้นไปบนเนินเขาวิหารเซนต์ปอล หรือเซนต์ ฟรานซีส เซเวียร์ ซึ่งสร้างขึ้นหลังโปรตุเกสเข้ายึดครองมะละกา โดยคณะบาทหลวง ซูอิต (Jesuit) แต่เนื่องจากผ่านระยะเวลามายาวนาน ที่นี่จึงเหลือเพียงซากผนังทั้ง 4 ด้าน ก่อขึ้นจากศิลาแลงฉาบปูนโดยไม่มีหลังคา ภายในมีป้ายจารึกหน้าหลุมศพอายุหลายร้อยปี เป็นภาษาโปรตุเกสและลาติน
        บนเนินเขานี้ยังเป็นจุดชมวิวของเมืองมะละกาด้วย
        จุดเด่นอีกหนึ่งอย่างของเนินเขานี้ก็คือที่ฝังศพชัวคราวของ เซ็นต์ ฟรานซีส ซาวียร์ (St. Fancis Xavier ) และมีอนุสาวรีย์ของท่านอยู่หน้าโบถส์ ที่สร้างขึ้นด้วยหินอ่อนจากอิตาลี โดยประวัติเล่าว่านำมาตั้งไว้ให้ชาวคริสต์บูชาเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 1953
        สำหรับเซนต์ฟรานซีส ซาเวียร์ เป็นนักบวชชาวสเปน ผู้ร่วมจัดตั้งนิกาย เยซูอิต และเป็นผู้เผยแพร่ศาสนาคริสนิกายโรมันคาทอลิคไปทั่วทวีปเอเชียตะวันออก จนได้รับสมญานามว่า The Apastle of The East Asia โดยท่านมีประวัติผูกพันกับมะละกามาก เพราะท่านได้แวะมาพำนักที่นี่ถึง 4 ครั้ง ในช่วงปี 1545 -1548 ก่อนไปเสียชีวิตที่ประเทศจีน         ศพของท่านถูกนำมาฝังไว้ที่มะละกานานถึง 6 เดือน ก่อนที่จะย้ายไปฝังถาวรที่เมืองกัว ประเทศอินเดีย         สำหรับเซนต์ฟรานซีส ซาเวียร์ ที่เมืองไทยก็มีโบถส์ที่คณะเยซูอิตของท่านอุปถัมภ์อยู่หลายแห่ง และได้ใช้ชื่ท่านเป็นชื่อโบถส์ เช่น  โบถส์ท่าศาลา จังหวัดจันทบุรี โบสถ์ในซอยมิตตคาม สามเสน และ โบสถ์บ้านเซเวียร์ ย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ที่กรุงเทพฯ
        จากเนินเขาวิหารเซนต์ปอล เราเลือกเดินลงไปอีกทางของเนิน นั่นคือไปทางป้อมใหญ่ที่ชื่อ ลา ฟาโมซา ( La Famosa ) หรือ The Famous โดยมีส่วนที่เหลือให้ชมคือป้อมประตู ซานดิเอโก ( Parta De Santiego ) ซึ่งด้านหน้ามีปืนใหญ่ตั้งไว้เป็นสัญญลักษณ์ของป้อมปืนในอดีต และเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของดัทช์ สแควร์
        บริเวณเดียวกันยังมีอาคารนุสรณ์ประกาศเอกราช (Proclamation of Independentce Memorial ) ซึ่งใช้ใช้จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับเมืองมะละกาที่เป็นศูนย์ข้อมูลนักท่อง เที่ยวไปในตัว         ใครมามะละกา จึง"อิ่ม"ทั้งสายตาและท้องจากหลากหลายวัฒนธรรมทั้งตะวันออกและตะวันตก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น