9/22/2559

ทุ่งสังหาร...กัมพูเชีย...

ทุ่งสังหาร...เขมรนรกบนดิน

...... ครั้งนี้เรื่องราวที่ผมอยากจะมาเล่าสู่กันฟังนั้นก็เป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะ ใกล้ตัวเราอีกเหมือนกันโดยเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับประเทศเพื่อนบ้านของเรา นั้นคือกัมพูชานั้นเอง
ซึ่งเรื่องที่จะนำมาเล่านั้นเป็นเรื่องของทุ่งสังหารครับ แต่ก่อนที่จะมาเล่ากระผมต้องเล่าความก่อนว่าก่อนเหตุการณ์นี้นั้นเกิดอะไร ขึ้น
ในช่วงยุค ค.ศ.1970 ในแทบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประสบปัญหาเรื่องสงครามเวียตนามและการ ความขัดแย้งของการเผยแพร่ลัทธิคอมมิวนิสต์
แล้วภายหลังเวียตนามใต้แตกและการถอนตัวไปหมดของกองทัพอเมริกันในเวียตนามได้ รวมชาติและกลายเป็นคอมมิวนิสต์ซึ่งทั้งในเขมรเองก็มีการต่อสู้ของ คอมมิวนิสต์อยู่เช่นกันและสามารถเอาชนะและยึดกรุงพนมเปญได้ในปี ค.ศ.1975
โดยการนำของพอลพต ซึ่งการปกครองของเขมรแดงนั้นมีความต้องการจะให้เขมรนั้นมีความเจริญยิ่งใหญ่อีกครั้งเหมือนกับในสมัยนครวัด
พอลพตจึงมีแนวคิดที่ว่าถ้าอยากเจริญรุ่งเรืองแบบนั้นเราก็ทำแบบสมัยนั้นเสีย เลยโดยการให้ประชาชนชาวเมืองทุกคนออกไปจากเมืองแล้วไปทำนารวมกันทุกคนการให้ ใช้สิ่งของที่ทันสมัย
แต่นั้นยังไม่ร้ายแรงเท่ากับนิสัยของพอลพตเองที่ความจงเกลียดจงชังเหล่า ปัญญาชนผู้มีการศึกษา(เพียงแค่ใส่แว่นหรือพูดภาษาต่างประเทศได้ก็โดนแล้ว) ชนชั้นกลาง ชนชั้นสูงคนร่ำรวย ผู้ที่ทำงานให้ต่างชาติ และ ชาวต่างชาติโดยเฉพาะเวียตนามหรือไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม
แล้วคนเหล่านั้นถ้าหนีจากพนมเปญไปไม่ทันก็จะโดนจับตัวไปยังค่ายกักกันแล้ว เริ่มการทรมานโดยกล่าวหาว่าเป็นกบฏเป็นซีไอเอเป็นอะไรบ้างเช่นการจับขังรวม กันแล้วให้อาหารในปริมาณที่น้อยมากแล้วเมื่อมีใครคนใดคนหนึ่งในห้องนั้นเสีย ชีวิตคนที่เหลือที่ก็ต้องอยู่กับศพที่เสียชีวิตนั้นแหละ
แล้วการฆ่าของเขมรแดงก็โหดร้ายอย่างยิ่งแม้แต่เด็กก็ไม่เว้นเช่นการนำเด็ก หรือเด็กทารกมาฝาดกับต้นไม้ให้ตายโดยระหว่างการฟาดนั้นจะเปิดเสียงเพลงให้ ดังเพื่อกลบเสียงกรีดร้อง
ความทุกข์ทรมานกับรกในครั้งนี้ได้คร่าชีวิตผู้คนไปทั้งสิ้น 2 ล้านคนทั้งจาการถูกทารุณกรรมและความอดยากจากระบบนารวมที่ล้มเหลว
แต่ความทุกข์นั้นอยู่ได้ไม่นานเมื่อเขมรแดงได้ทำสงครามกับเพื่อนบ้าน เวียตนามและพ่ายแพ้และกองทัพเวียตนามได้เข้ามาปลดปล่อยพนมเปญในปี ค.ศ.1977
เขมรแดงทั้งหลายจึงนี้หัวซุกหัวซุนไปยังชายแดนประเทศไทยและทำการสู้รบอีกสัก พักหนึ่งแต่ในปัจจุบันอาชญากรรมที่เขมรแดงได้ก่อขึ้นก็ได้มีการตั้งศาลเฉพาะ ที่ได้รับการช่วยเหลือจากนานาชาติในการจัดการเรื่องนี้แล้วแต่ก็มิสามารถ ดำเนินคดีผู้ก่อการได้ทั้งหมดซึ่งหลายส่วนไม่แก่ตายไปก่อนก็หนีรอดได้อย่าง พอลพตที่มาเสียชีวิตในประเทศไทยเมื่อปีค.ศ.1998 โดยไม่ถูกดำเนินคดีอะไรทั้งสิ้นเลย
ในปัจจุบันทุ่งสังหารหรือค่ายทรมานในพนมเปญได้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้คนทั่ว ไปได้ศึกษากันถึงความโหดร้ายของเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเองที่กระทำต่อกันไม่ ต่างไรกับสัตว์ การกระทำในครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งหน้าของการละเมิดสิทธิมนุษยชนขนานใหญ่ทั้ง สิทธิและเสรีภาพในชีวิตและทรัพย์สินซึ่งพยายามที่จะชำระให้ความยุติธรรมนั้น เกิดขึ้นมากที่สุดแก่ผู้ที่ถูกละเมิดและสูญเสียสิ่งต่างๆไป ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีที่นานาชาตินั้นออกมาช่วยกันเยียวยาและรักษาแผลเป็นบาด ลึกที่เกิดขึ้นในกัมพูชาครับแล้วท่านสามารถรับชมภาพยนตร์ที่กระผมเองก็เคยชม แล้วเห็นว่าดีมากสัมผัสได้ถึงอารมรณ์ของเหตุการณ์นี้นั้นก็คือเรื่อง The Killing Fileds  ครับลองไปหารับชมกันนะครับ อ้อ สงครามเกิด ตอนนั้นผมเพิ่ง 6 ขวบเอง





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น